1. TS
สาย TS (Tip /Sleeve) เป็นหนึ่งในประเภทสายสัญญาณที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการเสียง ใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสียงต่างๆ เช่น กีตาร์ไฟฟ้า เบสไฟฟ้า และลำโพงขยายเสียง สาย TS เป็นสายสัญญาณประเภท Unbalanced เหมาะสมสำหรับการส่งสัญญาณเสียงแบบ Mono หัวแจ็คมีจุดสังเกตุคือ ขีดสีดำ 1 ขีดที่หัวแจ็ค
2. TRS
สาย TRS (Tip / Ring / Sleeve) ดูคล้ายกับสาย TS แต่ดูความแตกต่างได้ที่ขีดสีดำ 2 ขีดที่ส่วนหัวแจ็ค สาย TRS เป็นสายสัญญาณประเภท Balanced สาย TRS เพียงเส้นเดียว ยังสามารถใช้เชื่อมต่อสัญญาณแบบ Mono หรือ Stereo ก็ได้
3. XLR
สาย XLR เป็นสายสัญญาณแบบ Balanced เป็นหนึ่งในสายที่มีความทนทานที่สุด สามารถใช้สาย XLR ที่มีความยาวมาก โดยจะไม่เกิดการสูญเสียคุณภาพของสัญญาณเสียง หรือการถูกแทรกด้วยสัญญาณรบกวน สาย XLR ใช้กับอุปกรณ์เสียงหลายประเภท โดยเฉพาะไมโครโฟน , ลำโพง , มิกเซอร์ และอุปกรณ์ระบบเสียง PA ต่าง ๆ เหตุผลที่อุปกรณ์เครื่องเสียงเหล่านี้ ใช้สาย XLR เพราะการให้เสียงที่คมชัด และมีความเสถียร ไม่ว่าจะใช้สายที่ยาว หรือสั้น
4. RCA
สาย RCA เป็นสายสัญญาณแบบ Unbalanced ที่สามารถพบเห็นได้ในระบบเสียง A/V ภายในบ้าน เช่น เครื่องเล่น DVD, เครื่องเล่น CD, โทรทัศน์, เครื่องรับสัญญาณวิทยุ, และระบบเครื่องเสียงต่าง ๆ โดยองค์ประกอบของสายสัญญาณ RCA ประกอบไปด้วย เส้นสีแดง(สัญญาณเสียงแชนแนลขวา) , เส้นสีขาว(สัญญาณเสียงแชนแนลซ้าย) , เส้นสีเหลือง(สัญญาณภาพ )
5. MIDI
สาย MIDI ใช้เป็นเส้นทางสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ในการส่งข้อมูล MIDI กับ VST เครื่องดนตรีดิจิตอลเข้าด้วยกัน MIDI เป็นรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่เขียนโดยเครื่องมือดิจิตอล สาย MIDI จะทำให้สามารถส่งข้อมูลนี้ไปยังคอมพิวเตอร์ หรือ Audio Interface เพื่อจัดเก็บ และบันทึกเป็นข้อมูล MIDI
6. SPEAKON
สาย Speakon เป็นสายสัญญาณแบบ Unbalanced ที่ไม่ค่อยเห็นกันตามบ้าน หรือเครื่องเสียงระดับ Consumer มักจะพบเห็นการใช้เป็นสายเชื่อมต่อระหว่าง เพาเวอร์แอมป์ เข้ากับลำโพงในระบบเสียงมืออาชีพ เป็นตัวเลือกสำหรับใช้ทดแทนสาย TS เนื่องจากสาย Speakon ได้รับการออกแบบมาให้ใช้กับระบบเสียงที่มีกระแสไฟสูงได้ และสามารถล็อกกับช่อง Input ได้
7. Banana Plug
สาย Banana เป็นสายสัญญาณแบบ Unbalanced เป็นหัวในแบบที่นิยมใช้ในหมู่นักเล่นเครื่องเสียงบ้าน และมีกลางแจ้งบ้าง แต่ไม่ค่อยนิยมมากนัก BANANA PLUG มีต้นกำเนิดมาจากทางยุโรป มีลักษณะเป็นแท่งเรียวยาว สามารถเสียบใช้งานได้โดยตรง เข้ากับแจ็คแบบ BindingPost หลังแอมป์ และหลังลำโพงได้เลย
8. S/PDIF
สาย S/PDIF เป็นการเชื่อมต่อสัญญาณเสียงแบบดิจิตอล (ในระยะไม่เกิน 10 เมตร) โดยการส่งสัญญาณของ S/PDIF จะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ แบบ Coaxial ส่งสัญญาณในรูปแบบไฟฟ้าผ่านสายสัญญาณ และแบบ Optical ที่ส่งสัญญาณผ่านสายใยแก้วนำแสง S/PDIF มักพบเห็นได้ในระบบเสียง A/V ตามบ้านระดับ Consumer ทั่วไปจนถึงระดับ Hi-Fi เช่น TV , DAC หรือแม้แต่ใน Audio Interface หลาย ๆ รุ่นก็มีเช่นกัน
9. USB
สาย USB เป็นสายสัญญาณที่ใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากับคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับพอร์ต USB เพื่อถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ โดยในระบบเสียงจะพบเห็นได้บนดิจิตอลมิกเซอร์ และ Audio Interface สาย USB มีหลากหลายประเภท หลากหลายขนาดเพื่อตอบสนองการใช้งานที่แตกต่างกัน รวมถึงมีคุณสมบัติ และความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลที่แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของ USB ที่ใช้
10. HDMI
สาย HDMI เป็นสายที่รับ-ส่งสัญญาณในระบบ Digital ทำหน้าที่ รับ-ส่งสัญญาณภาพและเสียงด้วยสาย HDMI เพียงเส้นเดียว ซึ่งต่างจากสายสัญญาณแบบเดิมๆ ที่แยกภาพและเสียงออกจากกัน จึงช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน เพียงแค่เสียบสาย HDMI ก็พร้อมใช้งานทั้งภาพและเสียง
